Sunday, 26 March 2023

สลด!! ยอดเหยื่อแผ่นดินไหว‘ชวา’พุ่งเป็น268คน จำนวนมากเป็นเด็ก ยังมีผู้สูญหายอีก151

ยอดผู้เสียชีวิตที่รวบรวม จนถึงวันอังคาร (22 พฤศจิกายน) จากเหตุ แผ่นดินไหว เขย่าจังหวัดชวาตะวันตก ของอินโดนีเซีย พุ่งพรวดขึ้นมาเป็นอย่างน้อย 268 คน จำนวนมากเป็นเด็กๆ ในขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีก 151 คน พวกเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยระบุ ระหว่างที่หน่วยกู้ภัย เที่ยวค้นหาผู้รอดชีวิตซึ่งติดอยู่ ตามซากหักพัง ของตึกที่พังทลายถล่มลงมา

แผ่นดินไหวคราวนี้ซึ่งวัดความรุนแรงได้ 5.6 แมกนิจูด ทว่าศูนย์กลาง อยู่ในระดับ ค่อนข้างตื้น ถล่มใส่ จังหวัด ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุด ของอินโดนีเซีย ตอนช่วงบ่าย 13.00 น.วันจันทร์ (21) สร้างความเสียหายให้แก่ เมืองซิอันจูร์ ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวง จาการ์ตา ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ราว 75 กม. แล้วก็ฝังหมู่บ้านอย่างน้อย 1 แห่งให้จม อยู่ใต้ดินโคลน ซึ่งถล่มตามลงมา

ซูฮาร์ยันโต ผู้อำนวยการ สำนักงานบรรเทาภัยพิบัติ ของอินโดนีเซีย หรือบีเอ็นพีบี บอกกับ พวกนักข่าวว่า นอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บมากยิ่งกว่า 1,000 คน คนที่ต้องหาบ้านพักใหม่ชั่วคราว 58,000 คน แล้วก็บ้านเรือนเสียหายราว22,000 หลัง

ในขณะที่ เฮนรี อัลฟิอันดี ผู้อำนวยการ ของสำนักงานค้นหา แล้วก็กู้ภัยแห่งชาติ (บาซาร์นาส) แถลงว่า การที่มี ดินโคลนถล่ม ในหลายๆ จุด แล้วก็พื้นดินที่แข็งเพราะแถบนี้ เป็นเขตภูเขา เป็นอุปสรรคต่อความพยายาม ในการกู้ภัย

นอกจากนั้น พื้นที่ประสบภัย ยังแผ่กว้าง ในขณะที่ถนนหนทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้านต่างๆ บริเวณนี้ต่างได้รับความเสียหาย ก็นับว่าเป็น ความท้าทายสำคัญ อัลฟิอันดี กล่าวต่อ

ผู้ได้รับบาดเจ็บ

สำหรับเหยื่อผู้เสียชีวิต แผ่นดินไหว

โดยจำนวนมาก เป็นเด็กๆ ซึ่งอยู่ในสถานที่เรียน ตอนที่ธรณีพิโรธ

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา อินโดนีเซียมักเผชิญแผ่นดินไหว ที่มีความรุนแรง กว่าคราวนี้ นั่นคือ ระดับ 6 หรือ 7 แต่หลายครั้งเป็นพื้นที่ใต้ทะเล สำหรับคราวนี้ถึงแม้ความรุนแรงต่ำกว่า ก็สร้างความเสียหายหนักกว่ามาก เพราะศูนย์กลาง แผ่นดินไหวล่าสุด อยู่ในระดับค่อนข้างตื้น นั่นคือ ลึกลงจากพื้นดินราว10 กม.

พวกเจ้าหน้าที่ บอกด้วยว่า เหยื่อจำนวนมากเสียชีวิตเพราะ ตึกต่างๆ ที่ก่อสร้างอย่างไม่แข็งแรง เกิดถล่มลงมา

ทางด้าน ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด กล่าวระหว่างเดินทาง ไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัย เมื่อวันอังคาร (22) ว่า ได้สั่งการ ให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาคนรอดชีวิตที่ยังติดอยู่ ใต้ซากที่อยู่อาศัย เป็นอันดับแรก

นอกจากนี้ผู้นำอินโดนีเซีย ยังแสดงความเสียใจ ต่อครอบครัว ผู้ประสบเหตุ รวมทั้งประกาศว่า รัฐบาลจะให้การสนับสนุนฉุกเฉิน โดยการฟื้นฟูบูรณะ จะรวมถึงโครงงานสร้างที่อยู่ที่อาศัย ซึ่งต้านแผ่นดินไหวได้ เพื่อป้องกันภัยพิบัติธรรมชาติ ในอนาคต

ทั้งนี้ หลังจากแผ่นดินไหว เมื่อวันจันทร์ คนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ถูกนำตัว ไปยังพื้นที่จอดรถของโรงพยาบาล ในเมืองซีอันจูร์ บางคนได้รับการดูแลรักษาในเต็นท์ชั่วคราว บางคนได้รับน้ำเกลือ บนทางเดิน แล้วก็บุคลากรทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยโดยอาศัยแสงสว่างจากคบเพลิง

คลิปจากคอมพาส ทีวี เปิดเผยให้เห็นประชากรในพื้นที่ประสบภัย ถือกล่องกระดาษ ที่เขียนข้อความ ขอรับบริจาคอาหาร รวมทั้งที่พักพิง ในขณะที่ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ยังไปไม่ถึง

เดดิ ปราเซ็ตโย โฆษกสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ตำรวจหลายร้อยนาย ถูกส่งไปช่วยเหลือปฏิบัติการช่วยเหลือ แล้วก็ภารกิจหลัก คือค้นหาแล้วก็อพยพผู้ประสบภัย

ริดวาน คามิล ผู้ว่าราชการ จังหวัดชวาตะวันตกกล่าวช่วงเวลาเช้าวันอังคารว่า มีผู้เสียชีวิต 162 คน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติ (บีเอ็นพีบี) อยู่ที่ 103 คน รวมทั้งสูญหาย 31 คน

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาตัวเลขผู้เสียชีวิตถูกปรับขึ้น เป็นอย่างต่ำ 268 คน

เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยังพบเจอปัญหาจากไฟฟ้าดับ ในบางพื้นที่ แล้วก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกมากยิ่งกว่า 100 ครั้ง

บ้านเรือนเสียหาย

อินโดนีเซีย ตั้งอยู่บน “วงแหวนไฟ” ในมหาสมุทรแปซิฟิก

ที่เปลือกโลกสองแผ่น มาบรรจบกัน ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวรวมทั้งภูเขาไฟระเบิดหลายครั้ง

เมื่อมกราคม ปีที่แล้ว เกิด รายงานแผ่นดินไหว ความแรง 6.2 ที่เกาะสุลาเวสี ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 100 คน รวมทั้งย้อนกลับไปในปี 2004 เกิดแผ่นดินไหว ความแรง 9.1 นอกชายฝั่ง เกาะสุมาตรา ที่ส่งผลให้เกิดสึนามิ ซึ่งส่งผลกระทบต่อ 14 ประเทศ รวมทั้งมีผู้เสียชีวิต 226,000 คน

นอกจากนี้ เมื่อวันอังคารยังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ 2 ครั้ง ที่หมู่เกาะโซโลมอน ทำให้สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย สนามบิน รวมทั้งห้างได้รับความเสียหาย รวมถึงยังเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องดับไฟในกรุงโฮนีอารา อย่างไรก็ดี ไม่มีการออกประกาศ เตือนสึนามิแต่อย่างใด

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยา ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า แผ่นดินไหวครั้งแรก เกิดขึ้นนอกชายฝั่ง ที่ความลึก 15 กม. วัดความแรงได้ 7.3 ก่อนที่จะปรับตัวเลข ลงมาอยู่ที่ 7.0 ส่วนครั้งที่ 2 มีความแรง 6.0 รวมทั้งเกิดขึ้นห่างกัน 30 นาที

ไบรอัน โทมู เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า จุดสนใจหลัก อยู่ที่เกาะกวา ดัลคาแนล ซึ่งเป็นที่ตั้ง กรุงโฮนีอารา รวมทั้งอยู่ใกล้พื้นที่ เหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหวมากที่สุด

อย่างไรก็แล้วแต่ ยังไม่มีรายงานผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง แล้วก็ความเสียหายเชิงโครงสร้างขนาดใหญ่แต่อย่างใด แต่ว่า บางพื้นที่ ในเมืองหลวง มีการดับไฟฟ้าในทันที เพื่อประเมินความเสียหาย ของสายไฟฟ้าเบื้องต้น นอกจากนี้ยังไม่สามารถใช้โทรศัพท์พื้นฐานได้

ที่มา: รอยเตอร์(Reuters Breaking International News & Views), เอเอฟพี(AFP), เอพี(AP)