Sunday, 26 March 2023

ชุมชนเอเชียช็อก! กราดยิง กลางงานฉลองตรุษจีนในสหรัฐฯ เสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย

ชายคนหนึ่ง ก่อเหตุ กราดยิง ผู้คนเสียชีวิต 10 ราย และ เจ็บอย่างน้อย 10 คน ในห้องบอลรูมแห่งหนึ่ง ระหว่างงานฉลองวันตรุษจีน ในตอนค่ำ วันเสาร์ (21 ม.ค.) ใกล้ลอสแองเจลิส สหรัฐฯ ก่อนแอบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ

มือสังหาร อยู่ระหว่างแอบหนี หลังจากก่อเหตุในเมืองมอนเทรีย์ พาร์ค เมืองแคลิฟอร์เนีย แล้วก็ อ้างอิงจากคำให้การของพวกผู้รู้เห็นเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมั่นใจว่า ผู้ร้ายน่าจะเป็นชายชาวเอเชีย อายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปี

“เรา จำเป็นต้องเอาตัวบุคคลรายนี้ ออกจากท้องถนนให้เร็วที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ ” โรเบิร์ต ลูนา เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายลอสแองเจลิส เคาน์ตี บอกกับผู้รายงานข่าว ระหว่างแถลงข่าวใน วันอาทิตย์ (22 เดือนมกราคม) ที่มอนเทรีย์ พาร์ค หนึ่งในชุมชนคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ในรุ่งเช้าวันเดียวกัน หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เจาะจง ยังไม่รู้จักว่า การจู่โจมครั้งนี้มีแรงบันดาลใจด้านผิวสีหรือไม่ โดยในเหยื่อคนตาย 10 รายนั้น แบ่งเป็นชาย 5 คน รวมทั้ง หญิง 5 คน แต่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ ต่อสาธารณะแต่อย่างใด

กราดยิงกลางงานฉลองตรุษจีน

จากเหตุ กราดยิง ในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เผยแพร่ภาพผู้ต้องสงสัย ที่บันทึกไว้ได้โดยกล้องวงจรปิด

พบเห็นเขาสวมแว่นตา สวมเสื้อแจ็กเกตสีเข้ม แล้วก็ หมวกไหมพรมสีแก่ลายขาว รวมทั้ง หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ระบุว่าพวกเขาเผยแพร่รูปเหล่านี้ ในความพยายามระบุตัวตน ของผู้ต้องสงสัย และ ระบุว่า ผู้ต้องสงสัยถูกมองในฐานะ “ติดอาวุธ และ อันตราย”

ช่วงสายของ วันอาทิตย์ (22 เดือนมกราคม) ห่างจากเมืองทอร์แรนซ์ เมืองแคลิฟอร์เนีย ราว 34 กม. ตำรวจใช้ยานยนต์ห่อเกราะหลายคัน ปิดล้อมรถตู้ผลิตภัณฑ์สีขาวคันหนึ่ง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผู้ต้องสงสัย

เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย เผยออกมาว่า พบชายคนหนึ่งที่คล้ายกับผู้ต้องสงสัยในทอร์แรนซ์ และ มีบุคคลรายหนึ่งอยู่ภายในยานพาหนะดังกล่าว “เราไม่ทราบสภาพของพวกเขา ซึ่งเขาอาจเป็นผู้ต้องสงสัยของเรา หรือไม่? มันก็มีความเป็นไปได้”

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ กำลังไต่สวนว่า เหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในสถานที่เต้นรำ อีกแห่งในเมืองอาลัมบรา ที่อยู่ติดกันราว 20 นาทีถัดมา ในคืน วันเสาร์ (21 ม.ค.) มีความเกี่ยวข้องกับเหตุฆ่าหมู่ที่มอนเทรีย์ พาร์ค หรือเปล่า หลังผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ประสบพบเห็นชายชาวเอเชียคนหนึ่ง ถือปืนเข้าไปในงาน แต่ถูกผู้ร่วมงานช่วยเหลือกันจับตัวไว้ ไม่มีการลั่นไกออกมา แล้วก็ ชายคนนี้หลบหนีไปได้

มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 10 รายถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลท้องถิ่น เพื่อรักษาการบาดเจ็บ รวมทั้งมีอย่างน้อย 1 คน อาการสาหัส ตำรวจไม่ได้กล่าวมาว่าคนร้ายใช้อาวุธปืนชนิดใดในการก่อเหตุ

เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นตอน 22.00 น.ตรงเวลาท้องถิ่น (ตรงกับประเทศไทย 13.00 น.วันอาทิตย์) ในเมืองที่มีการจัดงานฉลองตรุษจีน มีการปิดท้องถนนหลายสายในย่านใจกลางเมือง เพื่อจัดงานเฉลิมฉลอง ซึ่งดึงดูดเพื่อนร่วมงานหลายพันคน มาจากเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย และก็ หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจเผยว่าแผนงานฉลองสำหรับ วันอาทิตย์ (22 ม.ค.) ถูกยกเลิก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เชสเตอร์ ชอง ประธานหอการค้าจีน แห่งลอสแองเจลิส ให้ความหมายเมืองที่มีประชากรกร ราว 60,000 คน แห่งนี้ว่า เป็นสถานที่ ที่เงียบสงบ รวมทั้งงดงาม ที่ทุก ๆ คนรู้จักกัน และ ช่วยเหลือกันและกัน

กราดยิง

เมืองแห่งนี้ ซึ่งอยู่ห่างจากย่านใจกลางลอสแองเจลิส ราว 11 กิโล เป็นที่รู้จักกันมานาน หลายทศวรรษ

ว่า เป็นจุดมุ่งหมายของคนเข้าเมืองจากจีน โดยในบรรดาประชากรทั้งหมดนั้น มีถึง 65% ที่เป็นชาวเอเชีย แล้วก็ เมืองแห่งนี้ ยังลือชื่อด้านการมีห้องอาหารจีน และ ร้านขายของชำจีนจำนวนหลายชิ้น “ผู้คนที่โทร. หาผมเมื่อคืนนี้ พวกเขาหวั่นกลัว ว่ามันอาจเป็นอาชญากรรมจากความเกลียดชัง” ชอง กล่าว

ตำรวจมิได้เผยชื่อสมาพันธ์เต้นรำแห่งนี้ แต่พบเจอเจ้าหน้าที่เข้า ๆ ออก ๆ “สตาร์บอลรูม แดนซ์ สตูดิโอ” ซึ่ง ทางเข้าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เทปห้าม คลับแห่งนี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 1990 และก็ บนเว็บไซต์ของพวกเขาเป็นภาพถ่ายงานฉลองเทศกาลวันตรุษจีนปีที่ผ่าน ๆ มา ซึ่งพบเห็นผู้ที่มาร่วมงานยิ้มแย้ม แล้วก็เต้นรำ ในชุดปาร์ตี้ ในห้องบอลรูมขนาดใหญ่ แล้วก็ ประดับไฟสว่างไสว

อาจารย์ราน หนึ่งของสมาพันธ์เต้นรำแห่งนี้ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ เล่าว่า ลูกค้าจำนวนมากเป็นวัยกลางคน หรือ สูงอายุ แต่มีเด็กเข้าร่วมในคลาสสอนเต้น สำหรับเยาวชนเช่นกัน

ใบปลิวที่โพสต์บนเว็บไซต์ เป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์ งานปาร์ตี้ วันตรุษจีน ในคืนวันเสาร์ (21 มัธยมค) เริ่มตั้งแต่เวลา 19.30 น. ถึง 00.30 น.

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับเหตุโจมตีครั้งนี้แล้ว รวมทั้งได้ออกคำสั่งให้ เอฟบีไอ เข้าช่วยเหลือตำรวจท้องถิ่น

เหตุกราดยิงกลับมาเกิดขึ้นหลายครั้งในสหรัฐฯ รวมทั้งเหตุโจมตีในมอนเทรีย์ พาร์ค ถือเป็นการกราดยิงฆ่าชีวิตผู้คนมากที่สุด นับตั้งแต่ พ.ค. 2022 โดยคราวนั้นมือสังหารฆ่าผู้เรียน 19 คน และก็ คุณครู 2 ราย ที่สถานศึกษาแห่งหนึ่ง ในเมืองอูวัลเด รัฐเทกซัส

ส่วนเหตุกราดยิงที่นองเลือดที่สุด ในประวัติศาสตร์ของแคลิฟอร์เนีย เกิดขึ้นในปี 1984 โดยมือปืนลงมือฆ่าผู้คนไป 21 ราย ที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาหนึ่งในเมือง ซานอิซิโดร ใกล้กับซานดิเอโก

(ที่มา : รอยเตอร์)